ประกาศความเป็นส่วนตัวสำหรับการใช้กล้องวงจรปิด
บริษัท เอ็กซ์ซีเอ็มจี (ประเทศไทย) จำกัด(CCTV Privacy Notice)
ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2568 และได้ทบทวนปรับปรุง ณ วันที่ 11 สิงหาคม 2568
ประกาศความเป็นส่วนตัวสำหรับการใช้กล้องวงจรปิดฉบับนี้ (“ประกาศความเป็นส่วนตัว”) จัดทำขึ้นโดยบริษัท เอ็กซ์ซีเอ็มจี (ประเทศไทย) จำกัด (“บริษัท”) เพื่อใช้ในการเก็บ ใช้ รวบรวม เปิดเผย ประมวลผล และถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคล ของผู้เข้ามาใช้งานบริเวณสำนักงานของบริษัท (“ท่าน” หรือ “เจ้าของข้อมูล”) โดยมีข้อกำหนดดังนี้
1. การเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
1) ระบบกล้องวงจรปิดของบริษัทเปิดใช้งานตลอด 24 ชั่วโมง โดยจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบริษัททำการเฝ้าดูผ่านอุปกรณ์ ยกเว้นในกรณีที่อุปกรณ์/ระบบเกิดความขัดข้อง และ/หรือต้องทำการซ่อมบำรุง
2) บริษัทจะจัดวางป้ายและ/หรือติดสติ๊กเกอร์แจ้งเตือนการใช้งานกล้องวงจรปิดตามความเหมาะสมภายในสำนักงานของบริษัทหรือสถานที่ที่มีการใช้งานระบบกล้องวงจรปิด
2. นโยบายและวัตถุประสงค์ในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
เมื่อท่านเข้ามายังอาคารสำนักงานและพื้นที่ใด ๆ ของบริษัท บริษัทจะทำการเก็บภาพเคลื่อนไหว ภาพนิ่ง หรือเสียงของท่าน ซึ่งสามารถที่จะจดจำได้ว่าเป็นท่าน รวมถึงทรัพย์สินของท่าน อาทิ ยานพาหนะ ผ่านระบบกล้องวงจรปิดหรือ CCTV (“ระบบกล้องวงจรปิด” หรือ“ข้อมูลกล้องวงจรปิด”) โดยข้อมูลจากระบบกล้องวงจรปิดดังกล่าวอาจถือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (“ข้อมูลส่วนบุคคล”) ซึ่งจะได้รับการเก็บ ใช้ รวบรวม เปิดเผย ประมวลผล และถ่ายโอนตามมาตรการรักษาความปลอดภัยที่บริษัทกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด
โดยบริษัทอาจทำการเก็บ รวบรวม ใช้ เปิดเผย ประมวลผล และถ่ายโอนและดำเนินการใด ๆ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการบันทึก การเก็บบันทึก การปรับเปลี่ยน การแก้ไข การดัดแปลง การทำลาย การส่งผ่าน การรวม การทำสำเนา การลบ การกู้คืน การถอน การปรับปรุง การเพิ่มเติม ข้อมูลกล้องวงจรปิดที่เกี่ยวกับท่าน สำหรับ “วัตถุประสงค์” ตามรายการที่ระบุไว้ด้านล่าง ซึ่งจะกระทำบนฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อประโยชน์ต่อชีวิต เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อประโยชน์สาธารณะ ตามความยินยอมที่ได้รับ หรือตามฐานทางกฎหมายอื่นใดที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยบริษัทไม่มีเจตนาในการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ในการเก็บ รวบรวม ใช้ เปิดเผย ประมวลผล และถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน จะเป็นไปตามวัตถุประสงค์ดังนี้
1) เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคลและ/หรือทรัพย์สินส่วนตัวของท่าน
2) เพื่อควบคุมการเข้า-ออกภายในและ/หรือบริเวณอาคารสำนักงานและพื้นที่ใด ๆ ของบริษัท เพื่อการรักษาความปลอดภัยรวมถึงป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อสถานที่ทำงาน อาคาร บุคลากร พนักงาน เจ้าหน้าที่ของรัฐ และผู้มาติดต่อ รวมถึงทรัพย์สิน เช่น อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักร เอกสาร และข้อมูลของบริษัท
3) เพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่อาจนำไปสู่การหยุดชะงักของการดำเนินธุรกิจ การบุกรุก การทำลายทรัพย์สิน การโจรกรรม และอาชญากรรมในรูปแบบอื่น ๆ
4) เพื่อช่วยเหลือในการสืบสวนสอบสวน การแก้ไขปัญหาข้อพิพาท และ/หรือ ข้อร้องเรียนอันเกิดขึ้นจากการลงโทษทางวินัยหรือเพื่อการพิจารณาเรื่องร้องทุกข์จากพนักงาน บุคลากร ผู้มาติดต่อ หรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง
5) เพื่อนำไปใช้เป็นพยานหลักฐานในการดำเนินคดี ทั้งคดีความอาญา คดีความแพ่ง คดีสาขา รวมถึงคดีความอื่น ๆ
6) เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านในเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญานั้น ทั้งนี้ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง สัญญาจ้างแรงงาน สัญญาจ้างทำของ
7) เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัท รวมถึง การให้ความร่วมมือกับศาล หน่วยงานกำกับดูแล หน่วยงานของรัฐ และหน่วยงานที่มีอำนาจบังคับใช้กฎหมาย
8) เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท ทั้งนี้ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การประมวลผลเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพทางธุรกิจหรือทางนโยบาย การประมวลผลเพื่อการดำเนินตามคำขอของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
3. การจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว
ในบางกรณี ข้อมูลจากระบบกล้องวงจรปิดของบริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อท่านในทำนองเดียวกัน (“ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว”) ทั้งนี้ บริษัทขอยืนยันว่าการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวดังกล่าว จะเป็นไปเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย และตามฐานทางกฎหมายดังนี้
(1) เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่าน ซึ่งท่านไม่สามารถให้ความยินยอมได้ ไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม
(2) เป็นข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะด้วยความยินยอมโดยชัดแจ้งของท่าน
(3) เป็นการจำเป็นเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
(4) ประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ โดยบริษัทจะจัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานและประโยชน์ของท่าน
4. บุคคลที่อาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
บริษัทจะดำเนินการเก็บรักษาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และจะทำการเปิดเผยหรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อบุคคลเฉพาะเพียงแต่ผู้ที่มีหน้าที่หรือมีความจำเป็นจะต้องทราบเท่านั้น โดยบริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบริษัทลูก บริษัทในเครือ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง
• เอ็กซ์ซีเอ็มจี อินเตอร์เนชันแนล เทรดดิ้ง คอร์ปอเรชั่น (เอชเค) ลิมิเต็ด (XCMG International Trading Corporation (HK) Limited)
• เอ็กซ์ซีเอ็มจี คอนสตรัคชัน แมชชีนเนอรี่ กรุ๊ป อิมพอร์ต แอนด์ เอ็กซ์พอร์ต คอมพานี ลิมิเต็ด (XCMG Construction Machinery Group Import And Export Company Limited)
• เอ็กซ์ซีเอ็มจี คอนสตรัคชัน แมชชีนเนอรี่ คอมพานี ลิมิเต็ด (XCMG Construction Machinery Company Limited)
ทั้งนี้ รวมถึงบุคคลภายนอกที่จำเป็นต้องทราบ ผู้ได้รับอนุญาต พันธมิตรกิจการร่วมค้า และ/หรือผู้ให้บริการ โดยบุคคลเหล่านี้อาจตั้งอยู่ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ
5. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ
ในกรณีที่มีการถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ บริษัทจะดำเนินการถ่ายโอนเฉพาะเมื่อมีฐานทางกฎหมายที่สามารถอ้างอิงได้ เช่น การปฏิบัติตามข้อกำหนดตามสัญญาที่ทำขึ้นเพื่อประโยชน์ของท่าน การปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเพื่อปกป้องผลประโยชน์โดยชอบธรรมของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทจะพิจารณาดำเนินการภายใต้หลักความจำเป็นและความเหมาะสมตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตาม ประเทศปลายทางที่มีการถ่ายโอนข้อมูลไปนั้น อาจมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เทียบเท่า หรืออาจไม่เทียบเท่ากับมาตรฐานที่กฎหมายไทยกำหนดไว้ บริษัทจึงให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และจะดำเนินมาตรการทางกฎหมาย เทคโนโลยี และทางด้านการบริหารจัดการที่เหมาะสม เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับการคุ้มครองในระดับที่เพียงพอและสอดคล้องกับข้อกำหนดของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ก่อนดำเนินการถ่ายโอนข้อมูลไปยังประเทศปลายทางนั้น ๆ
6. มาตรการรักษาความปลอดภัย
1) บริษัทจะจัดให้มีมาตรการทางเทคนิคและการบริหารจัดการที่เหมาะสมในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อป้องกันข้อมูลที่ได้จากระบบกล้องวงจรปิด รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับท่าน มิให้สูญหาย ถูกทำลาย เข้าถึง ใช้งาน เปลี่ยนแปลง หรือเปิดเผยโดยมิชอบ ไม่ว่าด้วยวิธีการใด ๆ โดยบุคคลที่ไม่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้อง หรือโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับหลักการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด
2) บริษัทจะดำเนินการทบทวน และปรับปรุงมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างสม่ำเสมอ หรือเมื่อเห็นสมควรตามความจำเป็น โดยเฉพาะเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีหรือมีภัยคุกคาม ที่อาจส่งผลต่อข้อมูลส่วนบุคคล
7. ระยะเวลาในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้จากระบบกล้องวงจรปิดจะถูกจัดเก็บไว้ภายใต้ระบบของบริษัทเป็นระยะเวลาที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ด้านความปลอดภัย หรือเท่าที่จำเป็นต่อการบรรลุเป้าหมายตามที่ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ โดยจะคำนึงถึงระยะเวลาที่สอดคล้องกับมาตรฐานการรักษาความมั่นคงและความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลรวมถึงหลักเกณฑ์ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ในกรณีที่ข้อมูลจากระบบกล้องวงจรปิดเกี่ยวข้องกับการดำเนินการทางกฎหมาย เช่น กรณีการสอบสวนวินัยพนักงาน หรือการดำเนินคดีในชั้นศาล บริษัทอาจเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าวอย่างต่อเนื่องจนกว่ากระบวนการที่เกี่ยวข้องจะสิ้นสุดลง และเมื่อพ้นระยะเวลาที่จำเป็นดังกล่าว บริษัทจะดำเนินการลบหรือทำลาย โดยอาศัยวิธีการที่ปลอดภัยและได้มาตรฐาน
ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการจัดเก็บและบริหารจัดการข้อมูลดังกล่าวโดยยึดหลักความเหมาะสม และความจำเป็น ที่สอดคล้องกับข้อกำหนดของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด
8. สิทธิของท่านต่อข้อมูลส่วนบุคคล
ภายใต้บทบัญญัติแห่งกฎหมาย ท่านอาจมีสิทธิในการดำเนินการต่อไปนี้ต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
1) สิทธิในการเข้าถึงและแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล ท่านสามารถขอเข้าถึงหรือแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ถูกต้องหรือไม่สมบูรณ์ได้ทุกเวลา ทั้งนี้ เพื่อความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทอาจขอให้มีการพิสูจน์ตัวตนก่อนจะให้ข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ท่านร้องขอ
2) สิทธิในการถอนความยินยอม หากท่านเคยยินยอมให้บริษัท เก็บ รวบรวม ใช้ เปิดเผย ประมวลผล และถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ ท่านสามารถถอนความยินยอมได้ทุกเมื่อ และบริษัทจะหยุดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้เว้นแต่บริษัทมีฐานทางกฎหมายในการดำเนินการเช่นว่า
3) สิทธิในการลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของได้ ท่านสามารถขอลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของได้ ภายใต้เงื่อนไขดังนี้
(1) เมื่อท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลคัดค้านการเก็บ รวบรวม ใช้ เปิดเผย ประมวลผล และถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและข้อมูลดังกล่าวไม่จำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์ที่เก็บรวบรวม
(2) เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บ รวบรวม ใช้ เปิดเผย ประมวลผล และถ่ายโอนโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
(3) เมื่อท่านเห็นว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่จำเป็นต่อการเก็บรักษาอีกต่อไป เนื่องจากไม่มีหน้าที่ตามกฎหมาย นิติสัมพันธ์ หรือฐานทางกฎหมายอื่น ๆ รองรับ
(4) เมื่อท่านถอนความยินยอมสำหรับการเก็บ รวบรวม ใช้ เปิดเผย ประมวลผล และถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคล และบริษัทไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะเก็บ รวบรวม ใช้ เปิดเผย ประมวลผล และถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้อีกต่อไป
4) สิทธิในการเข้าถึงและขอคัดสำเนา โดยท่านสามารถยื่นคำร้องต่อบริษัทเพื่อขอคัดถ่ายสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทเก็บไว้ในครอบครองได้
ทั้งนี้ บริษัทขอเรียนให้ท่านทราบว่า การใช้สิทธิของท่านตามที่ระบุข้างต้น อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถของบริษัทในการให้บริการแก่ท่านได้อย่างครบถ้วน อีกทั้ง บริษัทอาจยังคงต้องจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไว้ หากมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมาย หรือตามกฎหมายที่อนุญาตให้ดำเนินการได้
9. ติดต่อเรา
หากท่านมีข้อซักถามหรือข้อสงสัยประการใด หรือมีความประสงค์ที่จะใช้สิทธิของท่านเกี่ยวกับข้อมูลกล้องวงจรปิด โปรดติดต่อเราหรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเรา ได้ที่
ผู้ดูแลข้อมูลส่วนบุคคล
เบอร์: 020988088-3
อีเมล: sittichok@xcmg.com
ที่อยู่: บริษัท เอ็กซ์ซีเอ็มจี (ประเทศไทย) จำกัด เลขที่ 1000/9 อาคารบีทีเอส วิชันนารี ปาร์ค-เซาธ์ ทาวเวอร์ ชั้นที่ 11
ยูนิต 1101-1104 ถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900